5 แคมเปญบรอดแคสต์ติดตามลูกค้าใน Facebook Messenger เพิ่มยอดขายซ้ำ
ในยุคที่ลูกค้ามีตัวเลือกมากมายบนโลกออนไลน์ การสร้างความสัมพันธ์และความภักดีต่อแบรนด์จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อการแข่งขันเริ่มเข้มข้น ลูกค้าก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนใจไปจากแบรนด์เดิมได้ง่ายขึ้น
หนึ่งในกลยุทธ์ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลในการรักษาความสนใจและความภักดีของลูกค้า คือการสร้างแคมเปญติดตามลูกค้า (Follow-Up Campaign) ผ่านช่องทางที่พวกเขาใช้งานเป็นประจำอย่าง Facebook Messenger
การทำแคมเปญเหล่านี้ผ่านการบรอดแคสต์ข้อความ จะช่วยให้แบรนด์สามารถสานต่อความสัมพันธ์กับลูกค้า ย้ำเตือนถึงคุณค่าที่มอบให้ และจูงใจให้เกิดการซื้อซ้ำได้อย่างมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น
วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 5 แคมเปญบรอดแคสต์ติดตามลูกค้าใน Messenger ที่ผู้ประกอบการและนักการตลาดสามารถนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มความภักดีและอัตราการซื้อซ้ำจากลูกค้าเก่าได้อย่างเห็นผลชัดเจน
1. แคมเปญ Onboarding และสร้าง First Impression
แคมเปญแรกที่ขาดไม่ได้เลยคือการต้อนรับลูกค้าใหม่ และสร้างความประทับใจในการมีปฏิสัมพันธ์ครั้งแรกกับแบรนด์ การบรอดแคสต์ข้อความทักทายพร้อมแนะนำข้อมูลสำคัญๆ จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกอบอุ่น และมั่นใจในการใช้บริการกับเรามากขึ้น
ตัวอย่างเนื้อหาในแคมเปญนี้ เช่น:
- ข้อความขอบคุณที่เป็นสมาชิกหรือลูกค้าของแบรนด์
- ลิงก์ไปยังหน้าเว็บไซต์หรือบัญชีของลูกค้า
- วิธีการใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการเบื้องต้น
- ช่องทางสำหรับสอบถามหรือขอความช่วยเหลือ
- สิทธิพิเศษหรือส่วนลดสำหรับลูกค้าใหม่
ข้อความเหล่านี้ควรส่งภายใน 24 ชม.หลังจากลูกค้าลงทะเบียนหรือซื้อสินค้าครั้งแรก เพื่อเสริมความรู้สึกที่ดีและความมั่นใจในแบรนด์นับจากวันแรกที่เริ่มใช้บริการ
2. แคมเปญอัปเดตคำสั่งซื้อและการจัดส่ง
อีกหนึ่งแคมเปญที่ช่วยสร้างความสบายใจและความเชื่อมั่นในบริการของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี คือการส่งข้อความอัปเดตความคืบหน้าของคำสั่งซื้อและการจัดส่งสินค้า
สิ่งที่ควรสื่อสารผ่านการบรอดแคสต์ในส่วนนี้ได้แก่:
- ข้อมูลยืนยันคำสั่งซื้อ ราคา และรายการสินค้า
- วันเวลาที่คาดว่าจะได้รับสินค้า
- เลขพัสดุ และลิงก์สำหรับติดตามสถานะการจัดส่ง
- ขั้นตอนหรือเอกสารในการรับสินค้า
- ช่องทางติดต่อกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการจัดส่ง
การเก็บข้อมูลการสั่งซื้อไว้ใน Messenger จะช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบย้อนหลัง และรู้สึกอุ่นใจว่าสินค้ากำลังจะมาถึงมือในเร็ววัน ซึ่งเป็นการสร้างความพึงพอใจและความไว้วางใจ อันจะนำไปสู่การกลับมาซื้อซ้ำในอนาคต
3. แคมเปญขอรีวิวและการแนะนำจากลูกค้า
เมื่อลูกค้าได้รับสินค้าและพอใจในบริการแล้ว ก็ถึงเวลาขอให้พวกเขาช่วยแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ กับคนอื่นบ้าง ด้วยการขอรีวิวและคำแนะนำผ่านช่องทางต่างๆ
เนื้อหาของแคมเปญนี้อาจประกอบไปด้วย:
- ข้อความขอบคุณที่อุดหนุนและไว้วางใจในสินค้า
- ลิงก์สำหรับให้คะแนน feedback หรือเขียนรีวิว
- ตัวอย่างรีวิวดีๆ จากลูกค้าคนอื่นๆ
- ของรางวัลหรือส่วนลดพิเศษเมื่อลูกค้ารีวิว
- ข้อความขอแนะนำหรือบอกต่อกับเพื่อนคนอื่นๆ
แคมเปญนี้ไม่เพียงช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้รีวิวที่ได้รับเป็นเนื้อหาโปรโมท และช่วยแนะนำสินค้าให้กับกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้อีกด้วย
4. แคมเปญอัปเซลและครอสเซลสินค้าเกี่ยวข้อง
หลังจากที่ลูกค้าซื้อสินค้าไปแล้วสักพัก ก็ถึงเวลาส่งข้อความบรอดแคสต์เพื่อแนะนำสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหรือเหมาะกับพวกเขา ซึ่งอาจเป็นการอัปเซลเกรดที่สูงขึ้น หรือครอสเซลไปยังสินค้าประเภทอื่นๆ ก็ได้
เนื้อหาและองค์ประกอบที่ควรมีในแคมเปญประเภทนี้ เช่น:
- เชื่อมโยงกับสินค้าที่ลูกค้าเคยซื้อไปก่อนหน้า
- แนะนำสินค้าที่คนส่วนใหญ่มักซื้อควบคู่กัน
- โปรโมชันหรือส่วนลดพิเศษเมื่อซื้อสินค้าชิ้นที่สอง
- รีวิวหรือเนื้อหาที่ช่วยให้ลูกค้าเห็นประโยชน์ของสินค้า
- ลิงก์สำหรับดูข้อมูลหรือสั่งซื้อสินค้าได้ทันที
การทำแคมเปญติดตามแบบนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าอื่นๆ และช่วยเพิ่ม Lifetime Value ของลูกค้าแต่ละคนให้สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้ของแบรนด์ในระยะยาว
5. แคมเปญวันพิเศษและโอกาสสำคัญ
สุดท้ายคือแคมเปญที่อิงกับโอกาสและช่วงเวลาพิเศษต่างๆ ของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นวันเกิด, วันครบรอบการเป็นสมาชิก หรือวันหยุดเทศกาลต่างๆ
การส่งข้อความบรอดแคสต์ในช่วงนี้จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์เอาใจใส่และให้ความสำคัญกับพวกเขา ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตัวอย่างเนื้อหาของแคมเปญเหล่านี้ เช่น:
ข้อความอวยพรวันเกิดและส่วนลดหรือของขวัญพิเศษ สิทธิประโยชน์พิเศษเมื่อต่ออายุการเป็นสมาชิก โปรโมชันช่วงเทศกาลและแนะนำสินค้าที่เหมาะกับเทศกาลนั้น ลิงก์ไปยังกิจกรรมพิเศษต่างๆ ที่แบรนด์จัดขึ้น ของสมนาคุณพิเศษเมื่อลูกค้าทำตามเงื่อนไข เช่น ซื้อครบจำนวนครั้งหรือยอดเงิน
แคมเปญบรอดแคสต์ในลักษณะนี้จะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและความภักดีของลูกค้าต่อแบรนด์ ด้วยการพูดคุยและมอบสิ่งดีๆ ในจังหวะที่ลูกค้าเปิดใจพร้อมรับฟังมากที่สุด กลยุทธ์การสร้างแคมเปญบรอดแคสต์ติดตามลูกค้าให้ได้ผล นอกจากการวางแผนเนื้อหาให้น่าสนใจและตรงจังหวะแล้ว กลยุทธ์ในการสร้างแคมเปญบรอดแคสต์ให้ประสบความสำเร็จยังมีอีกหลายประการ ดังนี้:
- ตั้งเป้าหมาย เงื่อนไข และความถี่ให้ชัดเจน ก่อนทำแคมเปญใดๆ ให้ตั้งเป้าหมายที่วัดผลได้ เช่น อัตราการเปิดอ่าน, คลิก หรือยอดขายที่คาดหวัง พร้อมกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เงื่อนไขการส่ง และระยะเวลาในการทำแคมเปญให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถออกแบบและติดตามผลได้อย่างเป็นรูปธรรม
- ทดสอบส่งในกลุ่มเล็กก่อนขยายวงกว้าง ก่อนส่งข้อความหาลูกค้าทั้งหมด ให้ทดสอบส่งกับกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็กก่อน เพื่อวัดผลตอบรับ อัตราการเปิดอ่าน และคอนเวอร์ชันว่าเป็นอย่างไร แล้วปรับแก้จนได้ผลดีก่อนค่อยขยายไปยังกลุ่มใหญ่
- ใช้ภาพ ลิงก์ และ Emoji ให้เกิดประโยชน์ การแทรกรูปภาพ, ลิงก์ และอีโมจิต่างๆ ในข้อความบรอดแคสต์จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจของเนื้อหา ทำให้ลูกค้าอยากอ่านและคลิกเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น โดยอาจใช้คู่กับ Call-to-Action ที่ชัดเจน เพื่อบอกให้ลูกค้ารู้ว่าต้องทำอะไรต่อไป
- ตั้งชื่อเรื่องและเวลาส่งให้ตรงใจ หัวข้อของข้อความบรอดแคสต์เปรียบเสมือนจุดดึงดูดความสนใจแรกของลูกค้า ดังนั้นต้องตั้งชื่อให้น่าสนใจ สร้างแรงจูงใจ หรือให้สัญญาถึงสิ่งดีๆ ที่ลูกค้าจะได้รับหากคลิกเข้ามาอ่าน พร้อมกำหนดเวลาส่งให้ตรงกับช่วงที่กลุ่มเป้าหมายใช้งานแอปฯ อยู่พอดี เพื่อเพิ่มโอกาสที่ข้อความจะถูกเปิดอ่าน
- ใช้ระบบ CRM เพื่อจัดการและติดตามข้อมูล การทำแคมเปญบรอดแคสต์แบบตามงานนั้น จำเป็นต้องมีการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าอย่างเป็นระบบ ดังนั้นการใช้ระบบ CRM จะช่วยให้สามารถจัดกลุ่มลูกค้า กำหนดเงื่อนไขการทริกเกอร์ และติดตามผลตอบรับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- วัดผล วิเคราะห์ และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง หลังจากส่งแคมเปญบรอดแคสต์แล้ว อย่าลืมวัดผลตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมวิเคราะห์ว่าเนื้อหา รูปแบบ และจังหวะไหนที่เวิร์ค ไม่เวิร์ค เพื่อนำไปปรับปรุงและทดสอบสิ่งใหม่ๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง การปรับแต่งให้ดีขึ้นอยู่เสมอ จะทำให้แคมเปญมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงสุด ทำไมต้องใช้ระบบอัตโนมัติอย่าง Broadturbo เมื่อต้องการทำแคมเปญบรอดแคสต์ติดตามลูกค้า การใช้แพลตฟอร์มระบบอัตโนมัติอย่าง Broadturbo จะช่วยให้การออกแบบและส่งแคมเปญทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยความสามารถต่าง ๆเช่น:
สร้างเงื่อนไขการทริกเกอร์ข้อความตามพฤติกรรมของลูกค้า ออกแบบเทมเพลตข้อความพร้อมเพิ่ม rich content ได้หลากหลาย จัดกลุ่มผู้รับตามแท็กหรือคุณลักษณะต่างๆ ตั้งเวลาส่งอัตโนมัติ พร้อมระบบ fallback หากส่งไม่สำเร็จ รายงานผลลัพธ์แบบเรียลไทม์ และเปรียบเทียบประสิทธิภาพ
ทั้งหมดนี้จะช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างและบริหารจัดการแคมเปญบรอดแคสต์แบบตามงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แม้จะมีข้อมูลลูกค้าจำนวนมาก ก็สามารถติดตามและสื่อสารกับทุกคนได้อย่างเป็นส่วนตัวและตรงเวลา บทสรุป แคมเปญบรอดแคสต์ติดตามลูกค้าถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยรักษาความสัมพันธ์ ความภักดี และการซื้อซ้ำของลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ให้อยู่กับแบรนด์ไปนานๆ โดยเน้นที่การส่งข้อความสร้างประสบการณ์ที่ดี สานต่อคุณค่าที่แบรนด์มอบให้ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วงเวลา ตั้งแต่แรกเริ่มไปจนถึงการอัปเซลและครอสเซลในระยะยาว การวางแผนและปรับปรุงแคมเปญอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยระบบอัตโนมัติอย่าง Broadturbo เข้ามาช่วย จะทำให้แคมเปญบรอดแคสต์ติดตามลูกค้าของแบรนด์เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งในแง่ของความพึงพอใจ ความผูกพัน และการเพิ่มยอดขายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในที่สุด